PBFD โรคไวรัสปากและขนในนกแก้ว
Quote from vetazoo admin on January 5, 2025, 3:15 pmเนื่องในวันนกแห่งชาติ Vetazoo มีเรื่องดีๆมาฝากจ้า
https://exoticpethospital.com/th/pbfd%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%82%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%81/
PBFDโรคไวรัสปากและขนในนกแก้ว(PBFD : Psittacine beak and feather disease)
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันนกแห่งชาติ (National Bird Day) พวกเราเลยจะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักกับโรคโรคไวรัสจงอยปากและขนในนกแก้วกันค่ะ
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส Circovirus ชนิดที่ก่อโรครุนแรงคือ PBFD-1 โดยจะพบมากในนกแก้วเป็นหลัก โดยพบรายงานครั้งแรกในนกกระตั้ว แต่จริงๆพบในนกหลายชนิดเช่น กาล่า มอลัคคั่น แอฟริกันเกรย์ ในนกท้องถิ่นอเมริกาเกิดน้อยกว่าแถบเอเชีย
อาการของนก
มีความหลากหลาย เกิดความผิดปกติของการสร้างขน เล็บ ปาก และเซลล์ที่กำลังพัฒนา เช่น เม็ดเลือด และสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 3 ปี บ้างก็เป็นเรื้อรัง แต่บางตัวก็ตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างรวดเร็ว
เนื่องในวันนกแห่งชาติ Vetazoo มีเรื่องดีๆมาฝากจ้า
PBFDโรคไวรัสปากและขนในนกแก้ว(PBFD : Psittacine beak and feather disease)
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันนกแห่งชาติ (National Bird Day) พวกเราเลยจะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักกับโรคโรคไวรัสจงอยปากและขนในนกแก้วกันค่ะ
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส Circovirus ชนิดที่ก่อโรครุนแรงคือ PBFD-1 โดยจะพบมากในนกแก้วเป็นหลัก โดยพบรายงานครั้งแรกในนกกระตั้ว แต่จริงๆพบในนกหลายชนิดเช่น กาล่า มอลัคคั่น แอฟริกันเกรย์ ในนกท้องถิ่นอเมริกาเกิดน้อยกว่าแถบเอเชีย
อาการของนก
มีความหลากหลาย เกิดความผิดปกติของการสร้างขน เล็บ ปาก และเซลล์ที่กำลังพัฒนา เช่น เม็ดเลือด และสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 3 ปี บ้างก็เป็นเรื้อรัง แต่บางตัวก็ตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างรวดเร็ว
Quote from vetazoo admin on January 5, 2025, 3:18 pmการติดต่อ
ผ่านทางฝุ่นขน และสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ของนก เช่น มูลนก น้ำตา น้ำลาย จะไปปนเปื้อนในอาหาร น้ำ ตามสิ่งแวดล้อมที่น้องอาศัย กรงที่น้องอยู่ อุปกรณ์ที่เลี้ยงน้อง และจะติดต่อผ่านทางการกิน หรือ หายใจเข้าไป โดยตัวที่ป่วยจะเป็นพาหะ และแพร่เชื้อได้ตลอด
ความรุนแรงของอาการแบ่งเป็น 4 รูปแบบ
แบบเฉียบพลันมาก (peracute form) พบมากในลูกนก นกลูกป้อน
โดยจะทำให้นกมีการย่อยอาหารช้าลง ส่วนใหญ่จะเป็นในกระตั้ัวและแอฟริกันเกรย์ อาการที่พบได้แก่ กระเพาะพักไม่เคลื่อน ปอดอักเสบ ถ่ายเหลว อาเจียน น้ำหนักลด และเสียชีวิตในที่สุด มักจะไม่พบความผิดปกติของคนจึงมักถูกมองข้ามแบบเฉียบพลันกับระบบเลือด (acute hematologic form) มักพบหลังหย่าลูกป้อน
โดยนกที่ป่วยจะมีค่าเม็ดเลือดแดงที่ต่ำ (anemia) ค่าเม็ดเลือดขาวต่ำ (leukopenia) หรือเม็ดเลือดต่ำทุกระบบ (Pancytopenia) นกจะมีอาการอ่อนแรงและติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย โดยจะไม่มีอาการทางขนเช่นเดียวกัน อัตราตาย 100%แบบเฉียบพลันกับระบบผิวหนัง (acute dermatologic form) มักพบในช่วงอายุ 30 วัน
จะพบการสร้างขนที่ผิดปกติ เช่น ขนขึ้นไม่สมบูรณ์ ขนแตกหักง่าย คดงอ จะมีการงอกของขนก้านแข็ง แทนขนอุย พบจุดเลือดออกตามบริเวณรากขน และพบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น กระเพาะไม่เคลื่อนตัว หรือเคลื่อนตัวช้า พบในกระตั้ว แอฟริกันเกรย์ เลิฟเบิร์ดแบบเรื้อรัง (chronic form) พบได้ทุกช่วงอายุ พบบ่อยที่สุด
มักพบในนกที่อายุน้อยกว่า 3 ปี โดยจะมีอาการหลักที่ขนชัดเจนกว่าทุกแบบ เช่นขนร่วงทั้งตัว ขนเจริญผิดรูป พบรอยขีดตามเส้นขน (stress line) ขนอ่อนแอแตกหักง่าย รากขนเป็นกระเปาะ โดยอาจจะไม่ตายง่ายเว้นแต่ว่ามีโรคแทรกซ้อนขนจะร่วงจากขนอุยก่อน จากนั้นร่วงที่ขนปกคลุมร่าง จนในที่สุดไปยังขนที่แข็งแรง เช่นปีกและหาง จงอยปากและเล็บผิดปกติ แผลในปาก
การตรวจวินิจฉัย
ตรวจจากเซลของขน และปาก แต่ปัจจุบัน การตรวจด้วย PCR จะมีความไวและจำเพาะ แล้วแต่ชนิดการตรวจ
นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายๆเช่น Psittacosis , PDD
การรักษา
รักษาตามอาการ
ไม่มียาโดยตรงเพื่อกำจัดไวรัสชนิดนี้แต่จะเป็นการเสริมภูมิ เพื่อให้ภูมิของน้องจัดการกับไวรัส เพราะฉะนั้นการรักษาจะเป็นในแนวทางรักษาตามอาการ ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และทานอาหารให้เพียงพอ
:
ทำอย่างไรดีเมื่อผลตรวจน้องเป็นบวกคุณหมอจะเก็บตัวอย่างส่งตรวจแลป real-time PCR เพื่อเช็คว่าน้องมีเชื้อ PBFD หรือไม่ ถ้าน้องมีเชื้อจะให้ผลตรวจเป็นบวก
:
ในกรณีที่ตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อคัดกรองโรคในนกที่ยังไม่แสดงอาการและผลตรวจเป็นบวกอาจเป็นภาวะมีเชื้อแต่นกยังมีภูมิดี ป้องกันตัวเองได้ ซึ่งจะแนะนำให้ทำการตรวจซ้ำในอีก 90 วัน
ถ้าผลเป็นลบแสดงว่านกมีภูมิและได้กำจัดเชื้อไปแล้ว แต่หากผลตรวจยังเป็นบวก ให้สงสัยว่าเป็นนกที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติจะแนะนำให้ทำการตรวจซ้ำทุก 90 วัน ในนกที่ไม่แสดงอาการจะทำการรักษาแบบตามอาการร่วมไปกับการเสริมภูมิคุ้มกัน
(supportive treatment)
:️ Remark: หากเลี้ยงน้องหลายตัวรวมกัน ควรแยกตัวป่วยออกจากกลุ่ม รวมถึงทำความสะอาดกรงและของใช้ทันที โดยสามารถใช้สารฟอกขาว (sodium hypochlorite) เจือจาง 1:50 ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกได้
️
แน่นอนว่าในวันนกแห่งชาตินี้
เว็ทอะซูมีของขวัญดีๆมาฝาก สำหรับบ้านไหนที่เลี้ยงนกและสนใจพาเด็กๆมาตรวจสุขภาพ หากจองแพ็คเกจตรวจสุขภาพล่วงหน้าในเดือนนี้ และทำการนัดหมายไม่เกิน 31 มค 68 สามารถรับคูปอง 10% เพื่อใช้ในวันตรวจสุขภาพได้เลยนะค้า
การติดต่อ
ผ่านทางฝุ่นขน และสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ของนก เช่น มูลนก น้ำตา น้ำลาย จะไปปนเปื้อนในอาหาร น้ำ ตามสิ่งแวดล้อมที่น้องอาศัย กรงที่น้องอยู่ อุปกรณ์ที่เลี้ยงน้อง และจะติดต่อผ่านทางการกิน หรือ หายใจเข้าไป โดยตัวที่ป่วยจะเป็นพาหะ และแพร่เชื้อได้ตลอด
ความรุนแรงของอาการแบ่งเป็น 4 รูปแบบ
แบบเฉียบพลันมาก (peracute form) พบมากในลูกนก นกลูกป้อน
โดยจะทำให้นกมีการย่อยอาหารช้าลง ส่วนใหญ่จะเป็นในกระตั้ัวและแอฟริกันเกรย์ อาการที่พบได้แก่ กระเพาะพักไม่เคลื่อน ปอดอักเสบ ถ่ายเหลว อาเจียน น้ำหนักลด และเสียชีวิตในที่สุด มักจะไม่พบความผิดปกติของคนจึงมักถูกมองข้าม
แบบเฉียบพลันกับระบบเลือด (acute hematologic form) มักพบหลังหย่าลูกป้อน
โดยนกที่ป่วยจะมีค่าเม็ดเลือดแดงที่ต่ำ (anemia) ค่าเม็ดเลือดขาวต่ำ (leukopenia) หรือเม็ดเลือดต่ำทุกระบบ (Pancytopenia) นกจะมีอาการอ่อนแรงและติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย โดยจะไม่มีอาการทางขนเช่นเดียวกัน อัตราตาย 100%
แบบเฉียบพลันกับระบบผิวหนัง (acute dermatologic form) มักพบในช่วงอายุ 30 วัน
จะพบการสร้างขนที่ผิดปกติ เช่น ขนขึ้นไม่สมบูรณ์ ขนแตกหักง่าย คดงอ จะมีการงอกของขนก้านแข็ง แทนขนอุย พบจุดเลือดออกตามบริเวณรากขน และพบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น กระเพาะไม่เคลื่อนตัว หรือเคลื่อนตัวช้า พบในกระตั้ว แอฟริกันเกรย์ เลิฟเบิร์ด
แบบเรื้อรัง (chronic form) พบได้ทุกช่วงอายุ พบบ่อยที่สุด
มักพบในนกที่อายุน้อยกว่า 3 ปี โดยจะมีอาการหลักที่ขนชัดเจนกว่าทุกแบบ เช่นขนร่วงทั้งตัว ขนเจริญผิดรูป พบรอยขีดตามเส้นขน (stress line) ขนอ่อนแอแตกหักง่าย รากขนเป็นกระเปาะ โดยอาจจะไม่ตายง่ายเว้นแต่ว่ามีโรคแทรกซ้อน
ขนจะร่วงจากขนอุยก่อน จากนั้นร่วงที่ขนปกคลุมร่าง จนในที่สุดไปยังขนที่แข็งแรง เช่นปีกและหาง จงอยปากและเล็บผิดปกติ แผลในปาก
การตรวจวินิจฉัย
ตรวจจากเซลของขน และปาก แต่ปัจจุบัน การตรวจด้วย PCR จะมีความไวและจำเพาะ แล้วแต่ชนิดการตรวจ
นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายๆเช่น Psittacosis , PDD
การรักษา
รักษาตามอาการ
ไม่มียาโดยตรงเพื่อกำจัดไวรัสชนิดนี้
แต่จะเป็นการเสริมภูมิ เพื่อให้ภูมิของน้องจัดการกับไวรัส เพราะฉะนั้นการรักษาจะเป็นในแนวทางรักษาตามอาการ ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และทานอาหารให้เพียงพอ
:
ทำอย่างไรดีเมื่อผลตรวจน้องเป็นบวก
คุณหมอจะเก็บตัวอย่างส่งตรวจแลป real-time PCR เพื่อเช็คว่าน้องมีเชื้อ PBFD หรือไม่ ถ้าน้องมีเชื้อจะให้ผลตรวจเป็นบวก
:
ในกรณีที่ตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อคัดกรองโรคในนกที่ยังไม่แสดงอาการและผลตรวจเป็นบวก
อาจเป็นภาวะมีเชื้อแต่นกยังมีภูมิดี ป้องกันตัวเองได้ ซึ่งจะแนะนำให้ทำการตรวจซ้ำในอีก 90 วัน
ถ้าผลเป็นลบแสดงว่านกมีภูมิและได้กำจัดเชื้อไปแล้ว แต่หากผลตรวจยังเป็นบวก ให้สงสัยว่าเป็นนกที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติจะแนะนำให้ทำการตรวจซ้ำทุก 90 วัน ในนกที่ไม่แสดงอาการจะทำการรักษาแบบตามอาการร่วมไปกับการเสริมภูมิคุ้มกัน
(supportive treatment)
:
️ Remark: หากเลี้ยงน้องหลายตัวรวมกัน ควรแยกตัวป่วยออกจากกลุ่ม รวมถึงทำความสะอาดกรงและของใช้ทันที โดยสามารถใช้สารฟอกขาว (sodium hypochlorite) เจือจาง 1:50 ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกได้
️
แน่นอนว่าในวันนกแห่งชาตินี้
เว็ทอะซูมีของขวัญดีๆมาฝาก สำหรับบ้านไหนที่เลี้ยงนกและสนใจพาเด็กๆมาตรวจสุขภาพ หากจองแพ็คเกจตรวจสุขภาพล่วงหน้าในเดือนนี้ และทำการนัดหมายไม่เกิน 31 มค 68 สามารถรับคูปอง 10% เพื่อใช้ในวันตรวจสุขภาพได้เลยนะค้า
Uploaded files: